ใย ไหม ไข่ หนอน



ไหม


ไหมคือเส้นใยที่พ่นออกมาจากปากของตัวหนอนที่โตเต็มวัยเพื่อมาห่อหุ้มตัว ป้องกันศตรูทางธรรมชาติในขณะที่หนอนไหมลอกคราบจากหนอนไหมเป็นตัวดักแด้ และไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ หนอนไหมเป็นแมลงชนิดหนึ่ง ซึ่งมีการเจริญเติบโตจากไข่ไหม(ขนาดเท่าเมล็ดงา) และเป็นตัวหนอนไหม ในขณะเป็นตัวหนอนไหมจะเจริญโดยการลอกคราบประมาณ 3-4 ครั้ง ในระยะเวลาประมาณ 20-22 วัน และจะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 10,000 เท่า โดยการกินอาหารกเพียงอย่างเดียว คือใบหม่อน และเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว จะหยุดกินอาหาร แล้วพ่นใยออกมาห่อหุ้มตัวเอง ที่เราเรียกว่า รังไหม ซึ่งมีลักษณะกลมรีคล้ายเมล็ดถั่ว และหากเรานำรังไหมมาต้มในน้ำที่มีอุณหภูมิตั้งแต่ 80 C ขึ้นไปจะสมารถทำให้กาว(sericin) อ่อนตัว และดึงออกมาเป็นเส้นยาวได้ ความยาวของเส้นใยจะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และการดูแลในช่วงที่เป็นหนอนไหม

ไหมเป็นสิ่งทอที่ล้ำค่ามากกว่าสิ่งทออื่นๆจนได้สมญานามว่า”ราชินีแห่งเส้นใย” แม้ไหมจะมีข้อเสียคือ ยืดหยุ่นได้น้อย ยับง่ายซักยาก แต่ข้อเสียเหล่านี้ก็ได้กำจัดออกไปหรือทำให้ลดลงไป โดยการใช้สารเคมีหลายชนิด ในกระบวนการผลิตเพื่อทำให้ผ้าไหมซักง่ายขึ้น ลดการยับและลดการทำให้ผ้าเหลืองลงได้ ยังมีการพัฒนาเส้นไหมดิบให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นโดยการตีเกลียวเส้นไหม ในทิศทางกลับกันและถี่ขึ้น ใช้เส้นใยที่มีขนาดใหญ่ เส้นใยชนิดนี้จะมีคุณสมบัติทางเคมีและฟิสิกส์ดี กำจัดข้อเสียต่างๆออกได้ด้วยความเป็นเส้นใยที่ได้จากสัตว์ ไหมจึงได้เปรียบเหนือกว่าฝ้าย ไหมมึคุณสมบัติดีเยี่ยมในการระบายอากาศ ดูดซับความร้อน ทำให้ร่างกายสนบาย มีการดูดซับน้ำได้มากกว่าฝ้าย 1.5 เท่า แต่ระบายความชื้นได้เร็วกว่า 50%  และดูดซับความร้อนไว้ในเนื้อผ้าได้สูงกว่า 13-21 % ปกติอุณหภูมิของร่างกายบริเวณเต้านมและต้นขาประมาณ 33.3 – 34.2 องศาเซลเซียส การสวมใส่ชุดผ้าไหมจะทำให้อุณหภูมิร่างกายบริเวณดังกล่าวลดลงเหลือ 31-33 องศาเซลเซียส ดังนั้นจึงทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกอบอุ่นในฤดูหนาวแต่จะเย็นสบายในฤดูร้อน ไม่เหนียวเนอะหนะเวลาสวมใส่ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ประเทศญี่ปุ่นที่มีอากาศร้อนและอากาศหนาวในช่วง 1 ปี จึงพัฒนาชุดชั้นในที่ทำด้วยเส้นใยไหมดึงดูดความสนใจได้มากกว่าเส้นใยสังเคราะห์อื่นๆ นอกจากจะใช้ผ้าไหมเป็นเครื่องนุ่มห่มแล้ว ยังทำเป็นผ้าม่าน ผ้าหุ้มชุดเฟอร์นิเจอร์ฯลฯ

ในอดีตถุงน่องสตรีทำจากไหมเพียงอย่างเดียว ภายหลังใยสังเคราะห์ไนล่อนเข้ามาแทนที่ไหมได้เกือบสมบรูณ์ เนื่องจากความเหนียวและทนทานยืดหยุ่นดีและราคาถูก แต่ไหมยังดีกว่าไนล่อนอยู่มากในด้านการสัมผัสการดูดซับความร้อนและระบายอากาศ
สมบัติทั่วไปของเส้นไหม
 
เส้นไหมเป็นเส้นใยโปรตีนที่ได้จากธรรมชาติและเป็นเส้นใยธรรมชาติชนิดเดียวที่เป็นเส้นยาว(filament) ต่างจากเส้นใยเส้นใยธรรมชาติอื่นเช่น ฝ้าย ขนสัตว์ ลินิน ที่ล้วนเป็นเส้นใยสั้น (staple fiber) รังไหมจะประกอบด้วยเส้นไหมดิบที่เรียกว่าเส้นไหมไฟโบรอิน(fibroin) สองเส้นร้อยละ 75 โดยน้ำหนัก ที่เกาะติดกันและเคลือบด้วยกาวไหม หรือที่เรียกว่า เซริซิน (sericin) ร้อยละ 25 โดยน้ำหนัก นอกจากนี้ในเส้นไหมจะมีไขมัน และน้ำมันอยู่ประมาณ 0.5-1 % และสารสีธรรมชาติประมาณ 1-1.4 % ปริมาณของกาวไหมจะขึ้นกับพันธุ์ไหม เช่นไหมเลี้ยงพันธุ์ Bombyx mori หรือ Mulberry silk จะมีกาวไหม 20-30 % ดังนั้นเมื่อจะทำการสาวเส้นไหมออกจากรังไหม จะต้องนำรังไหมไปต้มเพื่อทำให้รังไหมอ่อนนิ่มสม่ำเสมอกันตลอดทั้งรัง และกาวไหมบางส่วนจะละลายออกไป ทำให้สาวหาเงื่อนได้ง่าย และไม่ขาดบ่อยเพราะเส้นใยคลายตัวออกอย่างเป็นระเบียบ ส่งผลให้สามารถสาวไหมออกจากรังได้ง่าย มีปริมาณเศษไหมชั้นนอก เศษไหมชั้นใน และรังไหมที่สาวไม่ออกเหลือน้อยที่สุด รังไหมของหนอนไหมแต่ละรังจะสามารถสาวไม่ออกเหลือน้อยที่สุด รังไหมของหนอนไหม แต่ละรังจะสามารถสาวเป็นเส้นใยต่อเนื่องได้ประมาณ 1500 ฟุต หรือ 500 หลา สำหรับเส้นใยที่ขาดไม่มีความยาวต่อเนื่อง หรือที่เป็นส่วนด้านในของรังที่มีความยาวไม่มากนักจะนำไปปั่นเป็นเส้นด้ายที่เรียกกว่า Spun Silk
กรด : ไหมทนกรดได้น้อยกว่าขนสัตว์เพราะไม่มีพันธะโควาเลนต์ระหว่างสายโซ่ โมเลกุล ดังนั้นเหงื่อที่มีความเป็นกรดจะสามารถทำลายเส้นใยไหมได้
ด่าง
: สารละลายด่างทำให้เส้นไหมเกิดการพองตัว เพราะโมเลกุลของด่างจะแทรกเข้าไปทำให้โมเลกุลของเส้นไหมบางส่วนเกิดการแยกจากกัน จากโครงสร้างของโมเลกุลของเส้นไหมที่ยึดกันด้วยพัธะไฮโรเจน พันธะไอออนิก และแรงแวนเดอวาลส์เท่านั้น จึงทำให้เส้นไหมเกิดการไฮโดรไลซ์ได้ด้วยด่าง และถ้าปล่อยให้เส้นใยไหมอยู่ในสารละลายด่างเป็นเวลานานๆ ก็ยิ่งทำให้พันธะเปปไทด์ของเส้นไหม เกิดการไฮโดรไลซ์และเส้นไหมจะถูกทำลายในที่สุด ความแข็งแรงและความเงาจะลดลง
แสงแดด: ไหมไม่ทนต่อแสงแดดได้ดีเท่าขนสัตว์ ทั้งนี้เนื่องจากโครงสร้างของไหมไม่เป็นร่างแหและไม่ยึดกันด้วยพันธะโควาเลนต์เช่นเดียวกับขนสัตว์
การเตรียมไหมก่อนการย้อม



โดย : ฉัตรทองไหมไทย

เราเป็นผู้ผลิต และ จำหน่ายผ้าไหมมายาวนานกว่า 100 ปี สืบทอดมายาวนานกว่า 5 รุ่น

ติดต่อ  : 044-284465 , 081-8784285
e-mail : chattong@gmail.com
line @ : thd0967m
face book : Chattong THAI SILK
               : https://www.facebook.com/Chattong-THAI-SILK-439013809779439/?ref=bookmarks
  
ที่อยู่ : 78/1 หมู่ 8 ต.เมืองปัก อ. ปักธงชัย จ. นครราชสีมา 30150

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ผ้าไหม คือ

ประเภทผ้าไหมไทย

การดูแลผ้าไหม